สนามข่าว 7 สี – เรื่องต่อไปนี้ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลย ย้ำไว้เลย สำหรับกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่ ปปง. โทรศัพท์มาอ้างว่า เราส่งสินค้าผิดกฎหมายไปยังต่างประเทศ สุดท้ายก็จะหลอกให้เราโอนเงินไปให้
โดยเรื่องดังกล่าว เกิดขึ้นกับชาย อายุ 34 ปี ได้เล่าว่า เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 080 702 888 เบอร์โทรศัพท์ มาแค่ 9 ตัว โทรศัพท์เข้ามายังเบอร์ส่วนตัวของเขา เมื่อผู้เสียหายรับสาย ปลายสายก็ถามทันทีว่า ใช่ชื่อของผู้เสียหายหรือไม่ และบอกว่ามีพัสดุที่เขียนชื่อของผู้เสียหายส่งไปยังประเทศเกาหลี ซึ่งภายในเป็นพัสดุต้องสงสัยเกรงว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งพาสปอร์ต จำนวน 20 เล่ม, บัตร ATM ธนาคารต่าง ๆ 15 ใบ, เสื้อผ้า 10 ชุด ซึ่งมิจฉาชีพจะส่งต่อให้้ผู้เสียหายติดต่อไปยัง สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมให้แอดไลน์ไป เพื่อพูดคุยกับตำรวจในระดับพนักงานสอบสวน และระดับผู้กำกับ โดยแอคเคานต์ไลน์ที่แอดไปนั้นก็เป็นหน้าของที่ทำการ สภ.เมืองภูเก็ต ยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือไปอีก
ที่นี้ขณะที่มิจฉาชีพโทรศัทพ์หาผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้อยู่กับผู้สื่อข่าวสนามข่าว 7สี พอดี เลยร่วมจับพิรุธขบวนการหลอกหลวงดังกล่าวนี้ โดยวิธีการของมิจฉาชีพ จะพูดกดดันผู้เสียหายให้เกิดความกังวลและความกลัว พร้อมกับพูดข่มขู่ว่า ข้อมูลที่ให้นั้นต้องเป็นข้อมูลที่แท้จริง มิฉะนั้นจะเป็นการให้ข้อมูลเท็จ ซึ่งผิดกฎหมาย และจะย้ำซ้ำ ๆ ว่าเราโกหกหรือไม่ และการพูดคุยก็ขอทั้งเลขบัญชีธนาคาร รหัสบัตรประชาชน ที่อยู่ และจะอ้างว่าเราไปเปิดบัญชีกับธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงฟอกเงิน ไปลองฟังบางช่วงบางตอนกัน
ที่นี้หลังจากที่มิจฉาชีพพยายามให้ทางผู้เสียหายโอนเงินไป ปลายทาง เป็นชื่อ นายเพ็ชรัช พวงมาลัย โดยมิจฉาชีพบอกให้ผู้เสียหายโอนเงินทั้งหมดจากบัญชีชื่อของผู้เสียหาย อ้างว่า เอาไปตรวจสอบว่าเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือไม่
ทีนี้ทางทีมข่าว ได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังผู้กำกับตัวจริงของ สภ.เมืองภูเก็ต คือ พันตำรวจเอก สราวุธ ชูประสิทธิ์ ก็บอกกับทีมข่าวว่าไม่ได้มีชื่อตำรวจตามที่มิจฉาชีพนั้นกล่าวอ้าง และไม่เคยมีการโทรศัพท์ไปแจ้งความในลักษณะนี้โดยเด็ดขาด อีกทั้ง ยังไม่มีการรับแจ้งความผ่านทางออนไลน์แบบนี้ด้วย และที่ผ่านมาทางตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนแอบอ้างในลักษณะนี้มาโดยตลอด ส่วนรูปภาพที่มิจฉาชีพนำมาแอบอ้างนั้น ก็ไม่ใช่คดีที่จับได้ในท้องที่ของ สภ.เมืองภูเก็ต อีกด้วย เป็นภาพที่สวมร้อยคดีอื่นมาสร้างความน่าเชื่อถือเพียงเท่านั้น จึงอยากฝากเตือนประชาชน
ขณะที่ทางผู้เสียหายได้ฝากเตือนไปด้วยอีกว่า ทุกครั้งที่เราสั่งสินค้าออนไลน์เมื่อได้พัสดุมาแล้ว แล้วก็จะสนใจแต่สิ่งของที่เราสั่งมาจนลืมทำลายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่อยู่บนกล่องพัสดุ จุดตรงนี้ก็อาจจะเป็นช่องโหว่ให้มีการนำข้อมูลไปได้
หากคุณผู้ชมได้รับโทรศัพท์ในลักษณะนี้ ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อยว่ามิจฉาชีพแน่นอน และไปแจ้งไปได้ที่ สน. หรือ สภ. ใกล้บ้านทันที หรือจะแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ 1599 หรือ 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสายตรง 08-1866-3000 หรือ www.pct.police.go.th