เมื่อเร็ว ๆ นี้องค์กรภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตประกอบด้วย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง
สมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต สมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน สมาคมสปาเพื่อสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ต และสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดภูเก็ต รวมถึงบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด
และผู้บริหารเครือลากูน่า รีสอร์ท ภูเก็ต และผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติในจังหวัดภูเก็ตได้มานั่งหารือร่วมกันเรื่องแผนการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเปิดประตูธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564
ตั้ง 5 โจทย์จี้รัฐแผนฉีดวัคซีน
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้กล่าวว่า ลูกค้าหลักในจังหวัดภูเก็ต คือ ชาวยุโรป ที่วันนี้เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว และเริ่มออกเดินทางช่วงไตรมาส 4 คือเริ่มเดือนตุลาคม
ดังนั้นหากจังหวัดภูเก็ตมีแผนการรองรับการเดินทางที่ชัดเจนและเป็นไปได้ และสื่อสารออกไปภายในเดือนเมษายน 2564 จะทำให้เป็นโอกาสของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกครั้งที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นได้ทัน โดยรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะมาพำนัก 7-14 วัน
“หากรัฐบาลยังอ้ำอึ้ง ยังคิดในบริบทเดิม ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทัน เตรียมใจไว้เลยว่ามีปัญหาทางสังคมตามมาติด ๆ แน่ หลังจากนี้ เราจะเห็นกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามากวาดซื้อโรงแรม
และอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากขึ้น และอาจจะหมดเกาะก็เป็นไปได้ ถึงวันนั้นรัฐบาลจะมารับผิดชอบอะไรได้ สิ่งที่เราขอวันนี้ย้ำว่า ไม่ได้ขอสนับสนุนอะไรนอกจากการอนุมัติเชิงนโยบาย”
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก จึงมีความจำเป็นต้องคำนึงถึงกรอบเวลาของฤดูกาลท่องเที่ยว
ดังนั้น ภาคเอกชนเห็นพ้องต้องกันว่าวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ภูเก็ตจำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องกักตัว
ภาคเอกชนภูเก็ตจึงต้องการความชัดเจนจากรัฐบาล 5 ประการ 1.ความชัดเจนของรัฐบาลในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วจะต้องได้กักตัวหรือไม่ และหากไม่ต้องกักตัวจะต้องได้รับวัคซีนบริษัทใด
เพราะรัฐบาลไทยในวันนี้รับรองเพียง 2 บริษัท คือ ซิโนแวก และแอสตร้าเซนเนก้า หากนักท่องเที่ยวได้รับวัคซีนจากบริษัทอื่น เช่น โมเดอร์นา, โนวาแวกซ์ หรือไฟเซอร์ จะได้รับการพิจารณาอย่างไร มีเงื่อนไขอย่างไร
2.ความชัดเจนของรัฐบาลเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้กับชาวภูเก็ต และผู้ที่ทำงาน ณ จังหวัดภูเก็ตว่า ใครมีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีน ด้วยเงื่อนไขใด
3.ความชัดเจนของรัฐบาลในการอนุมัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินสะสมของแต่ละสังกัดจัดซื้อวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นกรณีพิเศษ และเป็นไปตามช่วงเวลาในยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต
4.ความชัดเจนของรัฐบาลในการขึ้นทะเบียนวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นที่มีเอกสารการวิจัยรองรับ และใช้กันในนานาประเทศเพื่อเปิดโอกาสให้มีการใช้วัคซีนที่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
5.ความชัดเจนของรัฐบาลในการอนุญาตให้เอกชนสามารถจัดซื้อวัคซีนให้พนักงานของแต่ละธุรกิจได้ตามกำลังและความสามารถของเอกชน โดยสั่งซื้อวัคซีนตรงจากโรงพยาบาลเอกชน และโดยงบประมาณของภาคเอกชนเอง
“เป้าหมาย คือ เราต้องการระดมสรรพกำลังในการสนับสนุนให้คนภูเก็ตและพนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 70% ของประชากรโดยไม่นับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ภายใน 1 กันยายน 2564 เพื่อสามารถสร้างภูมิต้านทานและเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป” นายภูมิกิตติ์กล่าว
“ภูเก็ตวันนี้สวยมาก แต่ความสวยมากมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ พี่น้องภูเก็ตแบกวิกฤตไม่ไหวแล้ว วันนี้เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์แห่งความหวังแล้วเท่านั้น และทางออกของวิกฤตนี้เหลือตั๋วใบสุดท้ายใบเดียว คือ วัคซีน
เพราะหากพลาดโอกาสนี้ไป นอกจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะสูญเสียมหาศาลแล้ว ปัญหาทางสังคมจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาล เราจะทำทุกอย่างให้พี่น้องชาวท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาอีกครั้งให้ได้ใน 1 ตุลาคมปีนี้
วันนี้พี่น้องชาวท่องเที่ยวภูเก็ตกำลังสิ้นหวัง มองเข้าไปในแววตาเราไม่เห็นประกายไฟแห่งการต่อสู้อีกแล้ว พวกเรากำลังหมดแรง และสิ่งที่เรากำลังพยายามทำครั้งนี้เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่เรารวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี เป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่เหลือ และหวังว่ารัฐบาลจะเข้าใจและสนับสนุน”
เครือข่ายท่องเที่ยวทุ่มซื้อวัคซีน
นางสาวเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางทีมภาคเอกชนภูเก็ตได้เจรจาขอซื้อวัคซีนจากเครือโรงพยาบาลเอกชนไปบ้างแล้ว และกำลังอยู่ในกระบวนการสรุปจำนวนและราคา
หากรัฐบาลเห็นชอบแนวทางที่ภาคเอกชนเสนอ ภูเก็ตน่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกของซิโนแวกได้ก่อนสงกรานต์ และทยอยฉีดในส่วนภาคเอกชนให้ครบตามแผนที่วางไว้
“เอกชนภูเก็ตตกลงกันแล้วว่าพนักงานในที่ทำงานโดยเฉพาะส่วนภาคท่องเที่ยวจะจ่ายเงินค่าวัคซีนกันเอง เพื่ออนาคตเราลงทุนเอง” นางสาวเชิญพรกล่าว
นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า สิ่งที่ภูเก็ตขอจากรัฐบาลมี 2 ประการ คือ ขอกำลังใจให้เดินต่อได้ และขอการสนับสนุนเชิงนโยบายเพียงการอนุมัติให้เดินตามแผนที่วางไว้ 1ต.ค.นี้ ที่เหลือภาคเอกชนภูเก็ตจะจัดการเอง เพื่อช่วยให้ภูเก็ตกลับมาได้อีกครั้งด้วยคนภูเก็ตเอง