เคลียร์ข่าวชัด 7HD – เคลียร์ให้ชัดวันนี้มาตามกันต่อกับบทสรุป กรณีสุนัขบางแก้วไล่กัดเด็กนักเรียน จนต้องขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดกัน กระทั่งเจ้าของสุนัขได้ออกมาเปิดใจยอมรับผิดชอบ แต่ยังคงปฏิเสธไม่ได้ตั้งใจปล่อยปละละเลยให้สุนัขกัดเด็กนักเรียน ล่าสุด เทศบาลนครภูเก็ตลงพื้นที่อีกรอบ ใช้อำนาจท้องถิ่นสั่งการให้เจ้าของคุมเข้มนำสุนัขใส่กรง ป้องกันเกิดเหตุซ้ำแล้ว
หลังเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งเคราะห์ร้ายถูกสุนัขพันธุ์บางแก้วตัวใหญ่กระโจนใส่ และงับเข้าที่ขาจนจมเขี้ยว มีบาดแผลเลือดไหลที่ขาซ้าย 4 แผล ต้องฉีดวัคซีนกันโรคพิษสุนัขบ้าและผู้ปกครองได้พาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต เอาผิดกับเจ้าของสุนัข ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันและเคยมีปัญหาทะเลาะเรื่องบุกรุกล้ำที่ดิน จนขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว โดยจุดเกิดเหตุอยู่ตรงข้ามโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
ต่อมาหญิงเจ้าของสุนัข เปิดใจว่า จริงแล้วเธอเลี้ยงสุนัขอยู่ 2 ตัว เป็นตัวเมียกับตัวผู้ ตอนเกิดเหตุกำลังทำอาหาร ได้ยินเสียงสุนัขในบ้านเห่าเลยรู้ว่ามีเด็กนักเรียนเดินผ่าน ก็พยายามบอกนักเรียนให้เดินไปเลยไม่ต้องสนใจ แต่ไม่รู้ว่าสุนัขตัวผู้มันกระชากโซ่หลุดไปตอนไหน ยืนยันว่าสุนัขเพิ่งกัดเด็กครั้งแรก และตนไม่ได้ปล่อยปละละเลย มีโซ่คล้องสุนัขเรียบร้อย
หลังเกิดเหตุได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เรื่องค่ารักษาพยาบาลยินดีชดใช้ให้ แต่ที่ทางญาติของน้องนักเรียนเรียกค่าเสียหาย 100,000 บาท มองว่ามากเกินไป ตอนนี้ได้จ่ายค่าเปรียบเทียบปรับไป 1,000 บาท ส่วนข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงจะขอต่อสู้ในชั้นศาล
ล่าสุด ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเจ้าของสุนัขอีกครั้ง และได้อาศัยอำนาจเทศบัญญัติเทศบาล สั่งการให้เจ้าของจัดทำกรงขังสุนัขบางแก้วทั้ง 2 ตัว และทำรั้วรอบขอบชิดแบบทึบกันไม่ให้สุนัขมองเห็นคนที่เดินสัญจรไปมา ซึ่งเจ้าของก็ยินยอม แต่ถ้าจะรอให้เจ้าของจัดทำกรงขังสุนัขอาจจะล่าช้า ใช้เวลาหลายวัน เบื้องต้นทางเทศบาลจึงไปยืมกรงสุนัขจากปศุสัตว์จังหวัดมาให้ใช้งานก่อน จำนวน 1 กรง ขังสุนัขได้เพียง 1 ตัว ส่วนอีกตัวย้ำเจ้าของต้องล่ามโซ่ไว้ และจัดหาตะกร้อมาครอบปากไว้ด้วย นอกจากนี้ยังจะได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจไปดูแลเด็กนักเรียนทั้งช่วงเช้าและเย็น ในการสัญจรไปมาบริเวณนี้อีกแรงด้วย