สดจากสนามข่าว
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ปิดคดีฆ่าสยอง!ภูเก็ต พ่อค้ากุ้งสารภาพสิ้น รัวสนั่นแผงดับ2เจ็บ3
สิบโมงเช้าวันที่ 10 ม.ค. 2565 ที่สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบช.ภ. 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส. ตร.ภ.8 และ พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทรวิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงปิดคดีสยองเมืองภูเก็ต
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่บริเวณตลาดสดสาธารณะ 2 (ตลาดเกษตร) ถนนอ๋องซิมผ่าย อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.หญิง นุชจรี ล่องแก้ว สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืนมีผู้ได้ รับบาดเจ็บ 5 ราย จึงประสานเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นแผงขายอาหารทะเลสด บริเวณภายนอกอาคารตลาดเทศบาลนคร ภูเก็ต พบผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนอยู่ ในที่เกิดเหตุ 5 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่กุศลธรรมภูเก็ตเร่งช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ประกอบด้วย นายศรายุทธ ถิ่นสถาน อายุ 57 ปี นางอาภร ถิ่นสถาน อายุ 52 ปี เจ้าของแผงขายกุ้งฝั่งตรงข้าม, นางต้อย ลิมปนานรักษ์, นายเกรียงไกร ลิมปนานุรักษ์ อายุ 56 ปี และ นายพรชัย ลิมปนานุรักษ์ บุตรชายซึ่งเป็นญาติเจ้าของแผง ก่อนที่ นายศรายุทธ และ นางอาภร จะเสียชีวิตใน เวลาต่อมา
เบื้องต้นทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายมณีนพ หมีทอง หรือ บังนี อายุ 49 ปี อาชีพเป็นพ่อค้าขายกุ้งที่ขายอยู่แผงติดๆ กันนั่นเอง หลังก่อเหตุขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ทะเบียน กอ 1631 ภูเก็ต หลบหนีไป
ลงมืออุกอาจมีคนเห็นกันทั้งตลาดจึงไม่ต้องสืบให้เสียเวลา ตำรวจระดมกำลังออกล่าจับตัวทันที ก่อนพบรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือแหลมหิน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต คาดว่าเจ้าตัวน่าจะลงเรือหนีไปหลบซ่อนตามเกาะต่างๆ
ต่อมาศาลจังหวัดภูเก็ตได้ออกหมายจับ นายมณีนพในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไป ในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร”
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นพบว่านายมณีนพและกลุ่มผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ มีอาชีพค้าขายกุ้งสด บริเวณตลาดเกษตร อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่เกิดเหตุโดยมีแผงขายกุ้งอยู่ติดกันมาหลายปี มักมีปัญหากระทบกระทั่งกัน เรื่องการตั้งราคาสินค้าตัดราคากัน การแย่งลูกค้าตัดหน้ากันเป็นประจำ ทำให้เกิดความบาดหมาง โกรธเคืองกันบ่อยครั้ง จนในวันเกิดเหตุคู่กรณีกับภรรยานายมณีนพทะเลาะกัน เจ้าตัวจึงกลับไปที่บ้านพัก ก่อนนำอาวุธปืนพกแบบลูกโม่ กลับมายังที่เกิดเหตุ และใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตและ ผู้บาดเจ็บทันที 5-6 นัด จากนั้นก็เดินกลับไปขึ้นรถขับหลบหนีไป
ตัดกลับมาที่การแถลงข่าว ผบช.ภ.8 เผยต่อสื่อมวลชนหลังสอบปากคำนายมณีนพว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดสงขลาด้วยความร่วมมือของตำรวจภูธรภาค 8 ภาค 9 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและตำรวจกองปราบปราม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหาเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด ในส่วนอาวุธปืนผู้ต้องหาได้โยนทิ้งทะเลในระหว่างทางหลบหนีจากเกาะภูเก็ตไป จ.กระบี่ ซึ่งไม่มีผล ต่อรูปคดี
ผู้ต้องหาให้การว่าหลังก่อเหตุหลบหนีโดยนำรถยนต์ของกลางไปจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านแหลมหิน อ.เมือง จ. ภูเก็ต ขึ้นเรือโดยสารไปยังแพขายอาหารบังหมุด และว่าจ้างเรือโดยสารเดินทางต่อไปขึ้นที่ท่าเรือหาดคลองม่วง จ.กระบี่ ก่อนเดินทางไปขึ้นรถยนต์โดยสารที่บขส. จ.กระบี่ เดินทางด้วยรถยนต์ตู้โดยสารไป ยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนตัดสินใจมอบตัว ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค. และถูกนำตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดี
ด้านนายมณีนพสารภาพว่า ปมเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการเก็บกดเป็นเวลานาน ปัญหากรณีขัดแย้งธุรกิจค้าขายกุ้งมานานกว่า 6 ปีกับทางคู่กรณี ถูกอีกฝ่ายพูดจาเหน็บแนม ทุกเช้า ก็พยายามอดทนอดกลั้นมาตลอด ทุกครั้งที่มีเรื่อง ต้องกลับบ้านไปนับหนึ่ง ถึงพัน เป็นร้อยครั้ง จนวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายทะเลาะกับแฟนตน ก็พยายามจะห้ามแล้ว แต่สุดท้ายก็บันดาลโทสะขึ้นมาจนลงมือกระหน่ำยิงดังกล่าว
มือปืนโหดยังยืนยันว่า จะไม่ขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ สำหรับเหตุการณ์ที่ทำลงไป
เอกภพ ทองทับ
เรื่อง/ภาพ
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 นำทีมแถลง
สอบปากคำพ่อค้าปืนดุ
พฐ.เก็บหลักฐาน
ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ