“สวนน้ำ” คึก นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เช็กอิน วานา นาวา หัวหิน และ อันดามันดา ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 17 กันยายน นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว (พราวกรุ๊ป) ผู้บริหารโครงการสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน และสวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจสวนน้ำทั้งที่หัวหินและภูเก็ตเริ่มคึกคัก แม้การฟื้นตัวจะไม่เร็วอย่างที่คาดไว้เมื่อต้นปี 2565 ที่ประเมินกันว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวและมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก
“ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ ยังเป็นปีที่น่าเป็นห่วง จากเมื่อต้นปีที่มองว่าปีนี้จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัว มีนักท่องเที่ยวกลับมา แต่พอดูจริงๆ แล้วด้วยสภาพรวมของเศรษฐกิจโลก สงคราม ดอกเบี้ยขาขึ้น ภาวะเงินเฟ้อสูง หรือแม้แต่ท่องเที่ยวเองก็ยังไม่ได้มีการฟื้นตัวมากขนาดนั้น ซึ่งไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยว ไม่ใช่เฉพาะในเซ็กเตอร์ของโรงแรม ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ในไทยก็พึ่งการท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะตลาดจีนที่หายไป ทำให้ได้รับผลกระทบ ประกอบกับเงินในกระเป๋าของคนในประะเทศก็ลดลง เกิดภาวะหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น การที่จะไปต่อก็อาจจะต้องลำบาก” นางสาวพราวพุธกล่าว
นางสาวพราวพุธกล่าวว่า สำหรับธุรกิจสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ยังคงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของคนไทย โดยเฉพาะช่วงโควิดจะคึกคักมาก เนื่องจากคนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ จึงเที่ยวในประเทศแทนและหัวหินก็เป็นสถานที่ยอดนิยม
“ขณะที่การทำการตลาดต้องมองหาสิ่งแปลกใหม่ สร้างความตื่นตา จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาเที่ยวอีกครั้ง ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการ 800 คนต่อวัน มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นคนตะวันออกกลาง อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย” นางสาวพราวพุธกล่าว
นางสาวพราวพุธกล่าวว่า พร้อมกันนี้ได้บริษัทเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้น โดยอยู่ระหว่างรีโนเวทพื้นที่บางส่วนใหม่ เช่น เครื่องเล่น และมีแผนจะรีโนเวทใหม่ทั้งหมดภายในสิ้นปี 2565 รวมถึงยังทำโปรโมชั่นร่วมกับโครงการเวหา หัวหิน หากซื้อคอนโดมิเนียมจะได้เล่นสวนน้ำฟรี 5 ปี
นางสาวพราวพุธกล่าวว่า ส่วนสวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต บริษัทใช้เงินลงทุนประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสที่บริษัทใช้เงินลงทุน 4,500 ล้านบาท มีพื้นที่ 58 ไร่ ประกอบด้วย สวนน้ำ โรงแรมและรีเทลไลฟ์สไตล์ โดยสวนน้ำเปิดบริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างดีหลังเปิดประเทศ มีผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ย 1,000 คนต่อวันหรือประมาณ 4,000 คนต่อเดือน โดยเป็นคนต่างชาติ 80-90% เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง ที่เหลือเป็นคนกรุงเทพฯและภูเก็ต ซึ่งที่ภูเก็ตการทำตลาดจะง่ายกว่าที่หัวหิน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่งเปิดใหม่ โดยการทำการตลาดบริษัทจะเน้นการประชาสัมพันธ์โครงการเป็นหลัก
“รายได้ของธุรกิจสวนน้ำที่ภูเก็ตอยู่ที่ 30 ล้านบาทต่อเดือน จากมีผู้เข้ามาใช้บริการวันละ 1,000 คน ยังคงเป็น 1 ใน 4 ของคาปาซิตี้ที่เราสามารถรองรับได้ 4,000 คนต่อวัน ส่วนที่หัวหินมีรายได้อยู่ที่ 10 ล้านบาทต่อเดือน ยังทรงๆ ตัวเมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิดที่มีคนใช้บริการ 1,000 คนต่อวัน เราทำตลาดร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย คาดว่าปีหน้าธุรกิจสวนน้ำน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งการเปิดประเทศ แต่อาจจะไม่ได้โตเร็วอย่างที่เราคาดหวัง ต้องรอให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาที่คาดว่าจะเป็นต้นปีหน้า เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเมื่อไหร่เศรษฐกิจประเทศไทยจะกลับมาฟื้นตัวในทันทีตามที่คาดหวังไว้แน่นอน“ นางสาวพราวพุธกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่