สปสช.อนุมัติจ่ายเงินเยียวยา 1 แสนบาท ให้เซลล์สาวขายรถภูเก็ตหลังได้รับผลกระทบผมร่วงหมดศีรษะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ขอบคุณสื่อ และกลุ่มขับเคลื่อนภูเก็ตที่ช่วย ตอนนี้สบายใจขึ้นหวังจะหายเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2565 ความคืบหน้าการช่วยเหลือเยียวยา กรณีพนักงานสาวขายรถในตัวเมืองภูเก็ตที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดย น.ส.มนัญญา ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาการผมร่วงหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา บูสต์เข็ม 3 หลังต้องดิ้นรนในการรักษาตัวเองมาเกือบ 4 เดือน ที่ผ่านมาต้องใช้เงินส่วนตัวในการรักษาตัวเองมาตลอด รวมทั้งยังไม่ได้รับการเยียวยา หรือการดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเท่าที่ควร แต่หลังจากที่มีการเข้ามาร้องเรียนความเดือดร้อนต่อสื่อมวลชน และกลุ่มขับเคลื่อนภูเก็ต จึงได้มีการเริ่มประสานของความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต จนล่าสุดได้มีการอนุมัติเงินเยียวยาช่วยเหลือให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย
น.ส.มนัญญา กล่าวด้วยความดีใจว่า อย่างแรกเลยต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนในพื้นที่ ที่ช่วยเหลือในการกระจายข่าว และช่วยประสาน อีกส่วนคือ กลุ่มขับเคลื่อนภูเก็ตที่ได้มีการประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทางจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อจะช่วยให้เรื่องการเยียวยาของตนได้ส่งเรื่องเข้าไปสู่ระบบ และการดำเนินการก็รวดเร็วขึ้น รวมทั้งต้องขอขอบคุณสภากาชาดจังหวัดภูเก็ตในการช่วยเหลือมอบเงิน ทั้งค่าเดินทางและค่าที่พักเบื้องต้นให้ เพื่อจะไปพบทีมแพทย์ที่รักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กทม.ในช่วงแรก
“ล่าสุดได้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขโทรมาแจ้งให้ทราบว่า เงินเยียวยาในส่วนนี้ได้ดำเนินการอนุมัติแล้ว และให้รอหลังจากนี้ประมาณ 7 วันจะมีเอกสารส่งมาที่บ้าน จากนั้นจะมีการโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีตามมาให้ ในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะได้เงินเยียวยา เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ส่วนในการรักษายังคงต้องรักษาอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะต้องมีการเดินทางขึ้นไป กทม.เพื่อจะไปพบหมอที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ อย่างโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตามที่มีการนัดหมายไว้” เซลล์ขายรถสาวภูเก็ต กล่าว
น.ส.มนัญญา กล่าวด้วยว่า ในตอนนี้ถือว่าสบายใจขึ้น อย่างน้อยมีความเบาใจในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะมารักษาตัวเอง และหลังจากที่ไปพบกับทีมแพทย์ ได้ไปคุยกับคุณหมอแล้ว ก็อุ่นใจขึ้น พอได้รับทราบแนวทางการรักษาแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา อาจจะ 3 เดือน 6 เดือน หรือว่า 1 ปี หรือว่าอาจจะต้องใช้มากกว่านั้น ซึ่งขณะนี้ ตนก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจทำใจ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาตัวเองแล้ว และหวังว่าผมบนศีรษะของตน จะหายกลับมาขึ้นเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้ง.