ร้านกาแฟของแท็กซี่สาวเจอพิษโควิดไม่มีงาน นำเงินก้อนสุดท้ายมาเปิดร้านกาแฟ “คนปีชง” หน้าหาดเกาะกวาง จ.กระบี่ แต่เจอปัญหาการจัดระเบียบพื้นที่ ต้องย้ายไปชงขายในสวนยาง คนแห่ตามอุดหนุนไม่ขาดสาย
ก่อนหน้านี้ทางไทยรัฐทีวีเคยนำเสนอเรื่องราวของ น.ส.เขมจุฑา ดินแดง อายุ 33 ปี อดีตสาวขับแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยว ที่เจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้ตกงานขาดรายได้มานานนับปี จนเหลือเงินทุนก้อนสุดท้าย บวกกับเคยเป็นบาริสต้าเก่า ตัดสินใจตั้งโต๊ะขายกาแฟในชื่อร้าน “คนปีชง” ที่ริมถนนหน้าหาดเกาะกวาง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จนกลายเป็นกระแสดังในโลกโซเชียล คนแห่กันไปอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะได้ชมวิวทะเล และจิบกาแฟรสชาติดี แต่ต่อมาเกิดปัญหาเนื่องจากจุดที่เธอตั้งโต๊ะขายกาแฟริมหาดไปขัดระเบียบของชุมชน ที่ห้ามไม่ให้ตั้งแผงขายของริมหาด ทำให้ต้องปิดร้านไปชั่วคราว เพื่อหาพื้นที่ตั้งขายใหม่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ว่า ในสังคมออนไลน์ของชาวกระบี่มีการโพสต์และแชร์จุดตั้งขายกาแฟใหม่ของร้าน “คนปีชง” จนกลายเป็นกระแสอีกครั้ง โดย น.ส.เขมจุฑา ย้ายที่ไปตั้งโต๊ะขายในสวนยางพารา ในพื้นที่ชุมชนป่าแก่ หมู่ 5 บ้านในไร่ ต.หนองทะเล คนที่ติดตามและทราบข่าวต่างก็แห่กันไปอุดหนุนกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะจุดที่ไปเปิดขายกลายเป็นบรรยากาศร้านกาแฟที่แปลกใหม่ไปอีกแบบ นั่งจิบกาแฟในสวนยาง สัมผัสบรรยากาศแบบลูกทุ่งๆ ชนบทของชาวสวนยางกระบี่
น.ส.เขมจุฑา กล่าวว่า จุดที่เปิดขายใหม่นี้เป็นพื้นที่สวนยางของครอบครัว และอยู่ใกล้บ้านของตัวเอง แม้จะอยู่ห่างจากแหล่งชุมชน แต่พอโปรโมตไปทางเพจ ปรากฏว่ามีคนที่เคยติดตาม ต่างเดินทางมาอุดหนุนกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะเพิ่งเปิดขายใหม่ได้เพียงแค่ 3-4 วันเท่านั้น เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรยากาศที่แปลกใหม่ เจ้าตัวเคยเห็นคนที่รู้จักกันเปิดขายในสวนยางพาราที่ จ.ภูเก็ต มาก่อน และเห็นว่าใน จ.กระบี่ ยังไม่มีคาเฟ่ในสวนยาง จึงทดลองเปิดขายดู ก็กลายเป็นที่รู้จักเร็วจนเกินคาด
สำหรับบรรยากาศบริเวณร้าน จะมีการตั้งโต๊ะนั่งกระจายตามจุดต่างๆ บางจุดก็นำกองฟางมาทำเป็นที่นั่ง เข้ากับพื้นที่เป็นอย่างดี ในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง และมีการจัดแต่งจุดสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ ทำให้บรรดาคอกาแฟ และผู้คนที่นิยมเที่ยวร้านสไตล์คาเฟ่สวยๆ พากันมาอุดหนุน และถ่ายภาพบรรยากาศไปโพสต์กันตามโซเชียล ซึ่งนอกจากรสชาติกาแฟที่เข้มข้นถึงใจเพราะเจ้าของร้านจะคั่วเมล็ดกาแฟเองแล้ว ยังได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวสวนยาง วิถีชีวิตชนบทอย่างแท้จริง
อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเที่ยวในชุมชนป่าแก่เพิ่มขึ้นด้วย จากเดิมที่ตรงนี้เป็นแค่สวนยางและสวนปาล์มของชาวบ้าน แต่บรรยากาศโดยรอบกลับร่มรื่น โอบล้อมไปด้วยภูเขา จนทาง นายวราพงษ์ เกบุตร รองนายก อบต.หนองทะเล ทราบเรื่องจึงลองเข้ามาเยี่ยมชมร้าน และชื่นชมในจิตใจที่ไม่ท้อของ น.ส.เขมจุฑา แม้จะประสบปัญหาขาดรายได้จากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังมีแนวคิด ไอเดียเก๋ๆ ที่จะทำร้านในชุมชน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้ทุกคนอย่าท้อ โดยทางตัวแทน อบต.จะให้การสนับสนุนในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นให้คนเดินทางมาเที่ยวกันให้มากขึ้นด้วย
ขณะที่ น.ส.ลลิตา บรรดา อายุ 33 ปี พนักงานธนาคารใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเดินทางมาไกลถึง จ.กระบี่ เผยด้วยว่า ตนตั้งใจเดินทางมา จ.กระบี่ เพราะเห็นกระแสในโซเชียลพูดถึงร้านกาแฟคนปีชง และทราบว่าร้านย้ายมาขายในสวนยาง ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนชอบดื่มกาแฟ และตระเวนไปชิมตามร้านกาแฟสไตล์คาเฟ่ต่างๆ มาหลายแห่ง จึงอยากลองมาสัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่แบบนี้บ้าง ซึ่งยอมรับว่าไม่ผิดหวัง เป็นการจิบกาแฟในบรรยากาศที่แปลก ได้สัมผัสธรรมชาติแบบบ้านๆ ชนบทแท้จริง ที่สำคัญรสชาติก็ถือว่าอร่อย จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ที่ผ่านไปมาลองแวะมาชิม และสัมผัสรสชาติกาแฟในบรรยากาศสวนยาง และอยากให้ทุกคนที่ประสบปัญหาในช่วงโควิดอย่าท้อ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง
สำหรับร้านกาแฟ คนปีชง ในบรรยากาศสวนยางพารา ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่เพียง 10 กม.เศษ บนเส้นทางกระบี่-เขาทอง จะเห็นป้ายปากทางระบุว่า ชุมชนป่าแก่ บ้านในไร่ หมู่ 5 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ หรือหากต้องการทราบข้อมูล สามารถติดต่อโดยตรงกับเจ้าของร้านตามหมายเลขโทรศัพท์ 08-8752-2233.