ปิดคดีฆาตรกรรมนักท่องเที่ยวหญิงชาวสวิสเซอร์แลนด์ ตำรวจคุมเค้นสอบชายอายุ 27 ปี จนเจ้าตัวยอมสารภาพ อ้างว่าแค่จะเข้าไปลักทรัพย์แต่ผู้เสียชีวิตขัดขืน จึงใช้มือบีบคอจนหมดสติ แต่ปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน
13.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม ตำรวจ สภ.วิชิต รับแจ้งพบศพหญิงเสียชีวิตที่บริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน พื้นที่ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบศพหญิงสาวนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณซอกโขดหิน ถูกปกปิดด้วยผ้าสีดำ เมื่อเปิดผ้าคลุมพบเป็นศพหญิงชาวต่างชาติ สภาพเปลือยท่อนล่าง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน จากนั้นตำรวจค้นในตัวและหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวสวิสเซอร์แลน์ด์ เป็นนักท่องเที่ยวในโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ซึ่งจากสภาพสภาพศพเธอถูกฆาตกรรม
ทันทีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบเรื่อง ได้สั่งให้ระดมทีมสืบฝีมีดีลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน แกะรอยหาเบาะแสคนร้าย พร้อมบินด่วนลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบเหตุดังกล่าวด้วยตัวเอง และเปิดศูนย์ทำงาน 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาให้ได้
ตำรวจย้อนไปดูข้อมูล พบว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวโครงการ ภูเก็ตแซนบ็อกซ์ และเข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี ตั้งแต่วันที่ 13-27 กรกฎาคม จากนั้นได้เช็กเอาต์ และไปเข้าพักโรงแรมอีกแห่งเพียงลำพัง กระทั่งวันที่ 3 สิงหาคม ได้เดินทางออกจากที่พักไปท่องเที่ยวที่น้ำตกโตนอ่าวยน ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเพียง 1.4 กิโลเมตร แล้วหายตัวไป ก่อนจะมีคนแจ้งพบศพ เบื้องต้นไปพบภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าไปในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และกู้คืนภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีกลับคืนมา กระทั่งบ่ายวันที่ 7 สิงหาคม ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน เป็นชายอายุ 27 ปี เขาเป็นชาวตำบลปากคลอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ที่มีบ้านพักอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยจากการแกะรอยจากภาพวงจรปิดพบชายอายุ 27 ปี เข้าไปที่เกิดเหตุ และขณะที่ไปควบคุมตัวก็พบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะร่องรอยบาดแผลตามลำตัว คล้ายกับมีการต่อสู้ จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจเก็บดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับศพ ก่อนคุมตัวไปเค้นสอบ พร้อมขอศาลออกหมายจับ
ในที่สุดชายอายุ 27 ปี ยอมเปิดปากรับสารภาพ ว่าวัดเกิดเหตุเข้าไปหาของป่า เห็นผู้เสียชีวิตกำลังเล่นน้ำจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ พยายามเข้าไปปลุกปล้ำแต่ไม่สำเร็จ ผู้เสียชีวิตขัดขืน จึงใช้มือบีบคอ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้เสียชีวิต จากนั้นจึงไปค้นเอาทรัพย์สินในกระเป๋าขโมยเงินแล้วหลบหนีไป โดยผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้ข่มขืนผู้เสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ แต่แจ้งข้อกล่าวหาฐานชิงทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนจะเป็นการอำพรางศพ หรือ ล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง