ภูเก็ตชง ศบศ.เปิดรับต่างชาติ 1 ก.ค.ไม่ต้องกักตัว พร้อมขอวัคซีนกว่า 9 แสนโดส ฉีด 4 แสนคนบนเกาะทุกคน
วันที่ 19 มีนาคม 2564 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการเตรียมการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของจังหวัดภูเก็ต โดยมี เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ผู้ว่าการ ททท. และคณะ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมประชุมฯ ณ โรงแรมเดอะซเลท อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากจากโควิด-19 ความพยายามของรัฐต้องการเปิดประเทศของภูเก็ตและอันดามันให้เร็วและต้องเปิดให้ได้ รัฐบาลสนับสนุนให้มีการเปิดมาโดยตลอดในการทำ Sandbox ต้องเปิดให้ได้ ซึ่งมีพัฒนาการทางการแพทย์ที่ดีขึ้น มีวัคซีนเข้ามาอยากใช้ความพยายามทุกส่วนช่วยกันให้ภูเก็ตเป็นตัวอย่างนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้ให้ภูเก็ตกลับมาดีกว่าเดิม
โดยมีเป้าหมายกำหนดวันเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้แล้ว คิดว่า ภูเก็ต น่าจะเป็นต้นแบบที่ดีพร้อมเป็นต้นแบบของประเทศได้
การประชุมครั้งนี้มารับฟังความพร้อมของผู้ประกอบการและภาคประชาชนก่อนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่ง เป็นเรื่องที่ดีว่าได้รับคำตอบว่าภูเก็ตพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐที่จะหาต้นแบบในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ถือว่า การท่องเที่ยวเป็นการสร้างรายได้สำคัญให้กับประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ที่สามารถเริ่มทำได้เร็ว ภายหลังจากการระบาดโควิด-19 ได้คลี่คลายลงไป
คิดว่าภูเก็ตมีความพร้อมเป็นที่รู้จักของต่างประเทศและที่ผ่านมาภูเก็ตเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทยทางด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ในด้าน ชื่อเสียง ศักยภาพ แนวโน้มของความร่วมมือที่ดีอย่างนี้น่าจะเป็นส่วนสำคัญในการที่จะเลือกให้เป็นต้นแบบในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นต้นแบบของการเปิดประเทศไทยในการรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างถาวร
เมื่อประเทศมีความพร้อมและได้ทยอยฉีดวัคซีนแล้ว ส่วนแผนการฉีดวัคซีนรัฐบาลเตรียมไว้ จำนวน65ล้านโดสมีจำนวนวัคซีนพร้อมกับทุกคนในการรับวัคซีน และจะนำผลการประชุมวันนี้ประกอบการนำเสนอการประชุมของคณะกรรมการศบศ.ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ทางด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท.ได้รับนโยบายเร่งรัดให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ มั่นใจว่าในควอเตอร์ 4 ของปีปฏิทินนี้นักท่องเที่ยวต้องกลับมาแต่ต้องบริหารความเสี่ยง เราทำงานร่วมกับภูเก็ตมาโดยตลอดในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้ทำภูเก็ตให้ดีกว่าเดิม ในการทำSandbox Phuket
ทางด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาคเอกชนภูเก็ตมีแนวคิดประกาศยุทธศาสตร์ก่อนหน้านี้คือ Phuket first october หรือล่าสุดนำเสนอ ศบค.ชุดเล็ก คือ Phuket Tourism Sandbox เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนได้ ประกอบด้วย วัคซีน ต้องให้กับประชากร 70% ก่อน จากนั้นการท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นได้ต้องไม่มีการควอรันทีนและการสื่อสารกับตลาดโลก ตลาดในประเทศและในจังหวัด
ที่ผ่านมาได้ประชุมร่วมกับทัวร์โอปะเรเตอร์หลักของยุโรปคือต้องไม่มีการควอรันทีน จากการสำรวจของททท.ในตลาดสแกนดิเนเวียน ความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยว 48%อยากมาภูเก็ต กระบี่ เขาหลัก ส่วนเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า 25% กว่าครึ่งอยากมาชายหาด ที่สำคัญมากคือ 68%ไม่มาถ้ามีการควอรันทีน และมี 26%ที่ยินยอมกักตัว10-14วัน
เดิมกำหนดไทม์ไลน์ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2564 เพราะมีความชัดเจนแล้วว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ โดยไม่มีการกักตัวแต่ความพยายามของภาคการท่องเที่ยว มีความกังวลคู่แข่ง การช่วงชิง การทำท่องเที่ยวต่างประเทศถ้ายังมีการควอรันทีนอยู่จะสูญเสียการแข่งขันไป และจะกลับมาได้ลำบาก ซึ่ง การไม่มีควอรันทีนจะเกิดขึ้นได้ต้องมีวัคซีนสองข้าง ฝั่งเดินทางมีและเรามี ความเป็นไปได้ของภูเก็ตมีประชากร 493,137คน เป้าหมายรับวัคซีน 466,587คน จำนวน 933,174 โดส
และต้องใช้สถานที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรในจังหวัดภูเก็ต รวม 9 แห่ง ดังนี้ 1.โรงแรมสแปลชรีสอร์ท ภูเก็ต 2.ธัญญปุระแอนด์รีสอร์ท 3.อังสนาคอนเวนชั่นแอนด์เซ็นเตอร์ 4.จังซีลอนป่าตอง 5.ม.ราชภัฏภูเก็ต 6.สนามกีฬาสะพานหิน 7.ม.อ.ภูเก็ต 8.โรงพยาบาลฉลอง 8.โรงแรมภูเก็ตออคิดรีสอร์ท
โดยจะฉีดทั้งหมดจำนวน 933,300โดส มี ทีมฉีดโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน 20 ทีม แต่ละทีมจำนวน 20 คน ถ้าจะเปิดในกรกฎาคมนี้บนพื้นฐานของการไม่กักตัวและฉีดวัคซีนคนภูเก็ต ให้ครบทุกคนเราทำได้ขอให้วัคซีนมาภายใน 15 เมษายน นี้ มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว หากจะให้เปิดในกรกฏาคมนี้ ขอวัคซีนให้คนภูเก็ตฉีดเสร็จตามกำหนดดังกล่าว
กลุ่มลูกค้าประจำของภูเก็ต คือ จีน รัสเซีย ถ้าบับเบิลมณฑลกันได้ เป้าหมาย คือ จีน สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล รัสเซีย และถ้าเปิดตุลาคม มี จีน อินเดีย รัสเซีย ออสเตรเลีย ยูไนเต็ดคิงดอม จะได้เงินรายได้ 54,000 ล้านบาทให้กับประเทศ แต่ถ้าขยับมาเปิดก่อนบนพื้นฐานไม่กักตัว จะได้ตลาดสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าเปิดก่อนจะช่วยรายได้ 84,000ล้านบาท ซึ่ง Sandbox Phuket มั่นใจว่าเปิดแล้วทำได้จริง
ทั้งนี้ ที่ประชุม สรุปว่าเริ่มเปิดภูเก็ตได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ไม่มีการกักตัว โดย จะเสนอเข้าที่ประชุมศบศ.พิจารณาต่อไป