“จังซีลอนภูเก็ต” เปิดโฉมใหม่พันล. ปรับแผนตลาดรับนักท่องเที่ยวเปลี่ยน
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ผู้จัดการรายวัน 360 – ภูเก็ตสแควร์ ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เตรียมจัดงานเปิดเผยโฉมใหม่อย่างเป็นทางการของศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต อัพเกรดศูนย์การค้าฯ พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรร้านค้าและโรงแรม เปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ 28 มิ.ย. 67 นี้ หลังทยอยปรับปรงใหญ่มา 3 ปี ด้วยงบลงทุนรวม 1,000ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “The Oasis of Shopping in Patong”
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เผยถึงโปรเจกต์ Asset Enhancement Initiative (AEI) ว่า เกิดขึ้นภายใต้กลยุทธหลักของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโต การพัฒนาปรับปรุง และสร้างความโดดเด่นให้กับศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มแผนงานพัฒนาและปรับปรุงศูนย์การค้าตั้งแต่ปี 2565 ทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าฯ บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
ขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทั้ง 4 โซน พร้อมด้วย Anchor, Entertainment และร้านค้าผู้เช่าเต็มพื้นที่กว่า 300 ร้านค้า ภายใต้การตกแต่งที่แตกต่างกันในแต่ละโซน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพของการช้อปปิ้ง ให้ความรู้สึกที่สดชื่น ผ่อนคลาย ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ได้แก่
• โซนเดอะจังเกิ้ล (The Jungle Zone) อาคาร 4 ชั้น ต่อเนื่องจากถนนป่าตองสาย 2 ที่เป็นทางเข้าหลักของศูนย์การค้า มีทางเชื่อมต่อกับโรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง After Glow ภายในโซนตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ “Amid the Shady Trees” ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ และสัตว์ป่ามากมาย โดยอาคารนี้ประกอบไปด้วย
– ชั้น B (Basement): บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 7,500 ตรม. ที่รวบรวมร้านค้า ร้านขายของฝาก และร้านอาหารมากมาย ได้แก่ โซน Food Bazaar และ Grab & Go ศูนย์อาหารที่รวบรวมทั้งอาหารไทยและนานาชาติ, โซน Thairapy ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์สปาจากธรรมชาติและของที่ระลึกของฝากจ. ภูเก็ต, ศูนย์รวมบริการนวดแผนไทย สปาเพื่อสุขภาพและบริการด้านความงามทรีทเมนท์, โซน Street Fashion แฟชั่นแนวสตรีท และโซนธนาคาร
– ชั้น 1: บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 7,200 ตรม. ประกอบไปด้วยร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนม และร้านอาหารมากมาย เช่น UNIQLO, X=Act, Volcom, Melissa, Viera by Regazze, Jelly Bunny, Misty Mynx, LYN, American Eagle Outfitters, Studio7, Naraya, MK Gold เป็นต้น
– ชั้น 2: โซนของ Sport Fashion & Beachwear และมีโซนร้านอาหารเปิดใหม่ “LOVE EAT” ล่าสุดกับสนามประลองความเร็ว “Power Drive Karts” สนามโกคาร์ทไฟฟ้าอินดอร์ติดแอร์ขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตรม. บริเวณชั้น 3 ภายในศูนย์การค้าแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต
• โซนเดอะโบทานิกา (The Botanica Zone) อาคาร 3 ชั้น ที่อยู่ติดถนนป่าตองสาย 3 จุดเชื่อมต่อระหว่างโซนต่างๆ และเชื่อมต่อ โรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง Sun-Kissed โดยมี Anchor หลัก ได้แก่ บิ๊กซี (Big C), ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (Robinson) และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า (SF cinema) นอกจากนี้ ยังเป็นโซนที่รวบรวมร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนมมากมาย ได้แก่
– ชั้น 1: International & local fashion brands ทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องสำอางและแอกเซสซอรีชั้นนำ
– ชั้น 2: ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (Robinson) และบิ๊กซี (Big C)
– ชั้น 3: โรงภาพยนตร์ SF Cinema City, Kidzooona, Froggy’s Fun Park, IT zone, Banana IT และ Samsung
• โซนเดอะเบย์ (The Bay Zone) ลานเอนกประสงค์แบบ Semi Outdoor ใจกลางศูนย์การค้า โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่เปิดสำหรับจัดกิจกรรมอีเว้นท์และโปรโมชั่นต่างๆ
• โซนเดอะการ์เด้น (The Garden Zone) บนพื้นที่กว่า 4,700 ตร.ม. ตั้งอยู่บริเวณชั้น G เชื่อมต่อทางเข้าฝั่งถนนสาย3 ต่อเนื่องสู่บริเวณโซนเดอะเบย์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ และแหล่งบันเทิง Hang Out สุดชิค โซนนี้ประกอบไปด้วยร้านอาหารชั้นนำ และโรงแรมพิมนารา บูติค โฮเต็ล (Pimnara Boutique Hotel) ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการในโซนนี้เช่นกัน
สำหรับ โรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ในเครือแบรนด์ “M Social” แห่งที่ 6 ของโลก และแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด เช่นเดียวกัน โดยได้ทำการ Rebrand และปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยมีจุดเด่นคือการนำนวัตกรรมผู้ช่วย AI Voice-Controlled มาให้บริการพร้อมอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก เป็นโรงแรมไฮเทคสุดล้ำแห่งแรกในภูเก็ต โดยโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีทให้บริการรวม 418 ห้อง
นายประวิช ยังกล่าวอีกว่า สำหรับช่วงครึ่งปีหลังนี้ ศูนย์การค้าจังซีลอน ได้เตรียมงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท เพื่อจัดโปรโมชั่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และปูพรมสร้างสรรค์อีเว้นท์ที่โดดเด่นน่าสนใจ เพื่อสร้างสีสันในวันพักผ่อน และมอบความสุขให้กับนักช้อปนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ ตอกย้ำความเป็น “Shopping Destination in Patong” รองรับการฟื้นตัวการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตที่กลับมามีความคึกคัก และมีสีสันมากขึ้นกว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ศูนย์การค้า มีลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นเทียบเท่าปี 2562 ประมาณ 45,000 – 50,000 คนต่อวัน (ก่อนโควิด19) โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 80% โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลเซียเป็นหลัก ซึ่งเราได้มีการปรับแนวทางการทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ กลุ่ม FIT (Free Individual Traveler) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางเอง และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในปัจจุบัน