ภูมิภาค
จนท.ศธ.เมากร่างชนแล้วหนี
วันเสาร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 16.35 น.
คลิกที่นี่
พัทลุง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเมากร่างชนแล้วหนีเจ้าทุกข์ตามทันแล้วกล่าวร้ายว่าเป็นเก๊งควายขณะตำรวจมาสอบที่เกิดเหตุยังดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา นายวีระชัย ขุนพลช่วย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/6 ม.2 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พร้อมผู้ปกครองเดินทางมาพบ ร.ต.อ.นิยม มุสิก ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เพื่อเจรจากับคู่กรณี หลังจากเมื่อคืนที่ผ่าน นายวีระชัย ได้ขับรถยนต์เก๋ง ยีห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน ขง 980 ภูเก็ต ติดไฟแดงบริเวณสีแยกท่ามิหรำ เขตเทศบาลเมืองพัทลุง แล้วมีรถยนต์กระบะโตโยต้าสีดำหมายเลขทะเบียน 5088 พัทลุง ขับโดยนายชลิต เกษตรสวัสดิ์ อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดพัทลุง เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี
ก่อนผู้เสียหายขับติดตามจนคู่กรณีจอดรถลงมามาด่าทอพร้อมกล่าวใส่ร้ายต่างๆนาๆ ว่าเป็นเก๊งควายตบทรัพย์ ทั้งที่นายวีระชัยพูดจาดีๆและได้อัดคริบไว้ตลอด พร้อมทั้งให้เรียกประกันเพื่อเจรจาคุยกันเบื้องต้นแต่นายชลิตไม่ยอมยังกล่าวร้ายต่างๆ นายวีระชัย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ แต่ยังถูกนายชลิตกล่าวดูหมิ่นซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งร้อยเวร และยังโอ้อวดตัวเองว่าเป็นญาติ ผกก.ใหญ่ในพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยามยามนำตัว เพื่อไปตรวจวัดแฮลกอออร์เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วคล้ายกับมีการการมึนเมาขณะขับรถ แต่นายชลิต ยังอวดตัวเองว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขระดับ 8 ไม่ยอมให้ตำรวจตรวจวัดแฮลกอฮออร์ พร้อมทั้งขู่ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจหากตรวจวัดแฮลกอฮอร์ไม่เจอ ตามคริบที่ผู้เสียหายบันทึกไว้
นายวีระชัย ขุนพลช่วย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/6 ม.2 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า เมื่อคืนหลังจากมาถึงโรงพัก นายชลิตยังมากล่าวเพื่อยั่วยุอารมณ์ตัวเอง แต่ตนเองพยายามเงียบ และวันนี้ก็เช่นกันทางร้อยเวรนัดมาเจรจาตกลงตั่งแต่ช่วงสาย รอนายชลิต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข มาพูดคุย แต่รอนานหลายชั่วโมงยังไม่มาทั้งที่เราเป็นผู้เสียหาย
นายวีระชัย ยังกล่าวอีกว่า นายชลิตเป็นถึงข้าราชการแต่ยังขาดวุฒิภาวะ ผมอายุยังน้อยแต่คิดว่ามีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากกว่า พยามยามอดทน แต่จนถึงขณะนี้ยังเฉยพร้อมทั้งขู่ว่าแกมีเพื่อนเป็นข้าราชการใหญ่ในจังหวัดหลายคนแกไม่กลัวหรอก
ด้านนายสมชาย ขุนพลช่วย น้าชายของนายวีระชัย กล่าวว่า แม่ชลิต จะเป็นข้าราชการใหญ่โตมีพรรคพวกเยอะ แต่สำนึกของความรับผิดชอบไม่มี ดูคริบที่หลานชายอัดไว้เป็นการดูถูกหลานชายว่าเป็นแก๊งควายตบทรัพย์ ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทซึ่งหน้า และแสดงกิริยาก้าวร้าว ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนเองยังข้องใจหลังเกิดเหตุเกี่ยวกับคดี ทางร้อยเวรได้นำตัวไปตรวจวัดแฮลกอฮออร์ หรือไม่เพราะดูจากคริบแล้วเชื่อว่าเมาแล้วขับ แน่นอน และเป็นถึงข้าราชการไม่น่าจะข่มขู่เด็กเลย โดยเรื่องดังกล่าวจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาให้ถึงที่สุดหลังจากนี้
คลิกที่นี่