เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวภูเก็ต – รัฐมนตรีเกษตรฯ ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจติดตามสภาพอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง วางแผนเพิ่มศักยภาพรองรับรับการใช้น้ำปีละ 80 ล้าน ลบ.ม.ดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวและออกกำลังกาย พร้อมรับปากวางท่อส่งน้ำดิบให้เทศบาลฉลองผลิตน้ำประปาแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 14 พ.ย.) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ บริเวณโครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ขังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวจ้อง รวมทั้ง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับ และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้น้ำของ จ.ภูเก็ต
โดยรองอธิบดี กรมชลประทาน กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต มีจำนวนประชากรกว่า 4 แสนคน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 14 ล้านคน มีปริมาณการใช้น้ำอุปโภคบริโภคปีละ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร มีโรงงานผลิตน้ำประปาในพื้นที่ 20 แห่ง มีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง สามารถเก็บน้ำได้ประมาณ 21.53 ล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตามพบว่าปริมาณ น้ำต้นทุนในจังหวัดภูเก็ตยังมีน้อยกว่าความต้องการ ใช้น้ำของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคและบริโภคในช่วงหน้าแล้ง จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำให้ได้มากขึ้น รวมทั้งการทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำตามจุดต่างๆ
ขณะที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จาการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำของภูเก็ต พบว่า จังหวัดหากจะเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว และการเติบโตของเมืองในอนาคต ภูเก็ตจะต้องมีปริมาณน้ำต้นทุน ที่จะใช้ประมาณ80 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ทั้งหมด รวมทั้งในส่วนของเอกชน ที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 70 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของสถานการณ์น้ำในภูเก็ต ตนก็ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาแหล่งน้ำที่มีอยู่ เช่น การเพิ่มศักยภาพในการกังเก็บน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ก็จะมีการเสริมสันเขื่อนแบบฝ่ายพับได้ ซึ่งจะทำให้เก็บได้ได้เพิ่มอีก 400,000 ลูกบาศก์เมตร นอกจากนั้นจะมีการขยายขุมน้ำที่มีอยู่กว่า 100 แห่งให้สามารถเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการทำแก้มลิง
และ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำชองประชาชนอย่างเช่นพื้นที่ ต.ฉลอง ก็จะดำเนินการในเรื่องของการวางท่อส่งน้ำไปให้กับเทศบาลตำบลฉลองเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา และสิ่งสำคัญคือเรื่องของการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ เช่น หน้าฝนก็ให้ใช้น้ำจากธรรมชาติ ส่วนหน้าแล้วให้ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งของยืนยันและให้ความมั่นใจกับคนภูเก็ตว่ากรมชลประธานจะบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามหลังจากติดตามสถานการณ์น้ำที่อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางต่อไปยังขุมน้ำหลังวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อพบปะกับชาวบ้าน ที่ออกมาเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ โดยนายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอแนวทางและขอสนับสนุนงบประมาณจากทางรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยระบุว่า สิ่งที่ขอสนับสนุนในครั้งนี้ประกอบด้วย การวางท่อส่งน้ำจากคลองกะทะมายังขุมน้ำหลังวัดฉลอง เพื่อทางเทศบาลนำน้ำไปใช้ผลิตประปาแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนั้นยังเสนอขอให้ทางกรมชลประทานดำเนินการเรื่องของการปรับพื้นที่บริเวณสันเขื่อนทั้ง 3 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชน รวมทั้งใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย
โดยดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทางกรมชลประทาน จะดำเนินการตามข้อเสนอที่ทาง อบจ.ภูเก็ต และเทศบาล ต.ฉลอง ซึ่งในส่วนของการวางท่อส่งน้ำนั้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ ประมาณ 50 ล้านบาท เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแน่นอน ส่วนกรณีการปรับภูมิทัศน์ สันเขื่อนให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายและสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมที่จะสนับสนุน และรับไปประสานงานกำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป