![This image is not belong to us](https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa4VljvDM3u2luObKRqqyYRzoyl66MpY5f9YYHaanscztlq657BOB.jpg)
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด (ศบศ.) เห็นชอบ แผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด (Sealed area) 7 วัน เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. นำร่องที่ จ.ภูเก็ตก่อน ส่วนอีก 5 จังหวัด ท่องเที่ยวหลักได้แก่ กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ถ้าจะทำรูปแบบนี้ก็เสนอแผนเข้ามาได้เช่นกัน
คุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า แผนดังกล่าวในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีน 2 โดสแล้วเดินทางเข้าภูเก็ต จะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด หรือกักตัวในโรงแรม 7 วัน ในรูปแบบ 0+7 คือจะไม่ถูกกักตัวในห้อง สามารถออกนอกห้องมาอยู่บริเวณโรงแรมได้ตั้งแต่วันแรก และเดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ที่ซีลไว้แล้ว ส่วนช่วงเวลาเปิดประเทศตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. จะทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนบินตรงเข้าภูเก็ตสามารถ เที่ยวได้ทั่วภูเก็ต เมื่อครบ 7 วันก็ออกเดินทางไปพื้นที่อื่นได้
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่อื่นๆในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.จะเป็นรูปแบบ 0+7 คืออยู่ในพื้นที่โรงแรมและเที่ยวในเส้นทางที่ซีลได้ จากนั้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. พื้นที่นำร่องทั้งหมดคือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ จะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสไม่ต้องกักตัว และอยู่ในพื้นที่นำร่องให้ครบ 7 วันก่อนออกไปพื้นที่อื่น
ถ้าทำได้ตามนี้ก็ถือว่าเปิดประเทศได้เร็วตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ต้องดูว่าแผนดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) และ ครม. หรือไม่ และต้องรอลุ้นว่า จะได้กระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากน้อยแค่ไหน เพราะในช่วง 7 วันแรกก็ยังต้องกักตัวอยู่ดี แต่ผ่อนคลายให้อิสระมากขึ้น เปิดพื้นที่กักตัวกว้างขึ้น จากห้องพักในโรงแรมขยายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ซีลไว้ไปจนถึงพื้นที่ทั้งจังหวัดนำร่อง
ตอนนี้หลายประเทศก็เร่งเตรียมความพร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน ประเทศไหนทลายข้อจำกัดเรื่องการกักตัวได้ก่อน ก็จะช่วงชิงตลาดได้มากกว่า ในเว็บไซต์ของหน่วยงานการท่องเที่ยวบางประเทศเริ่มโปรโมตการท่องเที่ยวแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เริ่มเอาข้อมูลการรีวิวแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในอดีตมาเผยแพร่ซ้ำ ถึงยังไม่เปิดประเทศ แต่ก็กระตุ้นความรู้สึกให้คนอยากไปเที่ยว
ลักษณะคล้ายๆกับ โครงการ#คิดถึงชุมชน ที่ น.อ.อธิคุณ คงมี ผอ.องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือชุมชนท่องเที่ยว เริ่มจากสร้างการรับรู้ให้กับดีมานด์ของการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้วยการนำเสนอและจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์ ควบคู่ไปกับการสร้างเรื่องราวให้ผู้คนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าได้รู้จักชุมชนเจ้าของสินค้าไปพร้อมๆกัน ทั้งยังกระตุ้นการซื้อผ่านบริษัทนำเที่ยว ขายแพ็กเกจทัวร์ที่ผนวกสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชนเข้าไปด้วย ตั้งเป้าว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ปกติจะเกิดการเดินทางไปเยี่ยมชมสัมผัสเสน่ห์ เรื่องราว และอัตลักษณ์ของชุมชน หรือกลับมาเที่ยวซ้ำอีก
เมื่อปีที่แล้วในช่วงที่การท่องเที่ยวหยุดชะงัก อพท.ก็ได้ถือโอกาสพัฒนาบุคลากรและยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยนำมัคคุเทศก์ที่ตกงานไปเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับนักสื่อความหมายท้องถิ่น เพื่อยกระดับการเล่าเรื่อง เข้าสู่การเป็น มัคคุเทศก์ท้องถิ่นแบบมืออาชีพ และมีการจัดอบรมยกระดับ การตลาดออนไลน์ ให้กับชุมชน เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการผ่านเพจชมรมของตนเอง รวมทั้ง ให้ความรู้การจัดการด้านสุขอนามัยเพื่อตอบรับชีวิตวิถีใหม่ โดยร่วมกับภาคีจัดทำ “ข้อปฏิบัติของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อสุขอนามัยปลอดภัยใส่ใจในสุขภาพ” เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้กับชุมชนท่องเที่ยวและผู้มาเยือน
การท่องเที่ยวโดยชุมชนแม้จะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ก็มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ที่สำคัญเราต้องดูแลปัจจัยพื้นฐานใน การเป็นเจ้าบ้านให้พร้อม พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับแขกให้ประทับใจ.
ลมกรด