จุรินทร์ ลงพื้นที่ภูเก็ต เช็กความพร้อมรับ นทท. สั่งติดตามกรณี เรือคลองสุเอซ อย่างใกล้ชิด ห่วงกระทบค่าขนส่ง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่สนามบินภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากปัญหาเส้นทางเรือ คลองสุเอซ ว่า ตนติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และให้สำนักงานพาณิชย์ต่างประเทศที่อียิปต์ รายงานมาตลอดระยะเวลาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับรายงานล่าสุดว่ากำลังมีความพยายามเร่งกู้เรือให้พ้นจากการล่มขวางคลอง ให้สามารถการเดินเรือสามารถต่อไปได้ แต่คาดว่าอาจยังต้องใช้ระยะเวลาอีกช่วงหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่ากี่สัปดาห์
ระหว่างนี้ได้มีการประสานงานกับผู้ส่งออก สายการเดินเรือ และสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศแล้ว และได้ข้อสรุปว่า หากช่วงระยะเวลาการกู้เรือยังยืดเยื้อต่อไป อาจจะต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางในการส่งออกสินค้าทางเรือ เพราะเส้นทางปกติของไทยในภาพรวม เราจะโหลดสินค้าลงเรือที่แหลมฉบัง ที่ผ่านมาใช้เรือขนาดกลางถ่ายของเพื่อนำไปถ่ายของขึ้นเรือขนาดใหญ่ที่สิงคโปร์ จากสิงคโปร์จะแล่นไปทะเลแดง ผ่านคลองสุเอซ เข้าเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อส่งไปยุโรป แต่หากเส้นทางนี้ยังติดอยู่ก็จะต้องปรับเปลี่ยนเส้นทาง ไปอ้อมแหลมกู้ดโฮปป์ ซึ่งอยู่ทางใต้ของอาฟริกา เพื่อไปยุโรป ซึ่งอาจใช้ระยะเวลายาวขึ้น 5-10 วันโดยประมาณ ทำให้ค่าใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ อาจต้องมีการประสานกับผู้นำเข้า สำหรับผู้ส่งออกไทยในการขยายเวลาในการส่งสินค้า ซึ่งเรื่องนี้ก็จะต้องมีการประสานงานกันต่อไป โดยสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมที่จะช่วยประสานงานและให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่
“ขณะนี้ก็ติดตามอยู่ ที่เป็นห่วงอยู่ประเด็นหนึ่งคือไม่อยากให้กรณีนี้ไปส่งผลกระทบต่อค่าขนส่ง (Freight) เพราะจะทำให้ต้นทุนส่งสินค้าสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับทั้งสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ และภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นศูนย์ในการประสานงานอยู่” รมว.พาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์มาตรการเตรียมเปิดเมืองท่องเที่ยวฝั่งอันดามันว่า เมื่อวานก็ได้มีมติ ศบศ.ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว เพราะถือว่ามีสัดส่วนไม่น้อยในเรื่องจีดีพีของประเทศ จากมติวานนี้ ต้องการเห็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้นอกจากไทยเที่ยวไทยด้วยกันเองในปัจจุบัน
ในส่วนของ 6 พื้นที่จากมติดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จะให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดซแล้ว เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศต้องได้รับการตรวจที่สนามบินปลายทาง เมื่อผลตรวจโควิดเป็นลบ และเมื่อเข้าพักในโรงแรม ก็จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น เป็นเวลา 7 วัน ก็จะมีส่วนช่วยให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาประเทศมากขึ้น
ส่วนรายละเอียดก็เป็นเรื่องของแต่ละพื้นที่จะเป็นผู้กำหนด เช่น จังหวัดภูเก็ตคงต้องกำหนดร่วมกับสาธารณสุข ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการท่องเที่ยวด้วยว่า หากมาเข้าพักในโรงแรมแล้วจะมีบริเวณให้นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียดที่จังหวัดต้องไปพูดคุยต่อไป
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ตนลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพราะต้องการมาหารือกับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนราชการที่ตนรับผิดชอบอยู่ พร้อมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ส่วนราชการอื่น และภาคเอกชนว่า ก่อนถึงวันที่ 1 ก.ค. ที่จะเปิดพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องตามมาตรการใหม่นี้ จะได้ช่วยกันต่อลมหายใจให้กับจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ในฝั่งอันดามันอย่างไรได้บ้าง
“วันนี้คงต้องหารือกันระหว่างส่วนราชการและภาคเอกชน จะมีกี่กิจกรรม ระหว่างนี้ใครจะช่วยสนับสนุนอะไรได้บ้าง กระทรวงพาณิชย์ที่ผมรับผิดชอบจะช่วยเติมเต็มอะไรได้บ้าง การท่องเที่ยวจะช่วยอะไรได้บ้าง จังหวัดภูเก็ตมีงบประมาณตรงไหนที่จะมาช่วยจัดกิจกรรมเพิ่มเติมระหว่างนี้ที่จะช่วยส่งเสริมไทยช่วยไทยเพิ่มเติม และเมื่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา จะช่วยเติมเต็มตรงไหนได้บ้าง รวมทั้งหน่วยการปกครองท้องถิ่นและภาคเอกชนอื่นด้วย” นายจุรินทร์กล่าวในที่สุด