ชาวภูเก็ตต่างร่วมลุ้นให้กำลังใจ ลูกเต่ามะเฟือง 34 ตัวโผล่ออกจากหลุมทราย ว่ายลงทะเลหาดกะตะแล้วครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยเป็นหลุ่มไข่เต่ามะเฟืองเมื่อ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่อัตรารอดแค่ 40%
เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณชายหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลูกเต่ามะเฟืองที่ฟักออกมาเป็นตัวในรอบ 20 ปี จำนวน 34 ตัว ต่างพากันผุดออกจากหลุมทรายเดินลงทะเล ภายหลังเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต (ศอทล.ภูเก็ต) ได้ช่วยกันทำการขุดหลุมที่มีไข่ของแม่เต่าปีใหม่ ที่ขึ้นมาวางไข่ไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีการสังเกตพบการยุบของหลุมไข่เต่า อันเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าลูกเต่าฟักออกจากไข่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าลูกเต่าไม่สามารถดันตัวออกจากหลุมได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยชีวิตลูกเต่าจึงจำเป็นที่จะต้องทำการขุดขึ้นมา ท่ามกลางชาวภูเก็ตและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มาร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจกันเป็นจำนวนมาก โดยมีนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพร้อมด้วย นางสาวพรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีฯ และผู้เกี่ยวข้องร่วมสังเกตการณ์ด้วย
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สำหรับไข่เต่ามะเฟืองหลุมนี้ เป็นไข่ของแม่เต่ามะเฟืองที่ขึ้นมาฟักไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 จึงเรียกว่า แม่ปีใหม่ ซึ่งในครั้งนี้พบว่า มีไข่ดีจำนวน 80 ฟอง โดยมีชีวิตจำนวน 34 ตัว และตายคาหลุมจำนวน 32 ตัว มีอัตราการฟักอยู่ที่ 82% และมีอัตราการรอดอยู่ที่ประมาณ 40% โดยมีตัวอ่อนที่ไม่แข็งแรงและต้องอยู่ในตู้ไอซียู หรือตู้ปฐมพยาบาลประมาณ 4 ตัว นอกจากนี้ยังมีไข่ที่ไม่ได้รับการผสมประมาณ 14 ฟอง
“ปัจจัยที่มีผลทำให้มีตัวอ่อนตายมากถึง 32 ตัว เนื่องมาจากความแข็งแรงของเต่าเอง และความหนาแน่นของทราย เนื่องจากทรายบริเวณนี้จะค่อนข้างมีความหนาแน่นมาก ทำให้ลูกเต่าที่ไม่แข็งแรงไม่สามารถดันทะลุความแน่นของทรายขึ้นมาได้” อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว.
