ข้อเสนอผู้ประกอบการสถานบันเทิง แก้ระบบจัดการเพื่อป้องกันดีกว่าห้ามเปิด

มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก มาตรการควบคุม นอกจากการทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. ยังกำหนดให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดในรูปแบบร้านอาหาร โดยต้องได้รับอนุญาติจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนวันที่ 15 มกราคม เปิดได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัดจะจำหน่ายสุราได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. และต้องปิดบริการไม่เกิน 24.00 น.

มาตรการดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการสถานบันเทิงเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตพอสมควร พวกเกรงว่าหากสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงกว่านี้ อาจมีผลถึงขั้นต้องสั่งห้ามดำเนินกิจการ ซึ่งจะเกิดผลกระทบอย่างมาก

วีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มองว่าการเลื่อนเปิดใช้มาตรการ Test&go ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในบางส่วน เนื่องจากยังมีช่องทางภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่ แต่เชื่อว่าหากมีการปิดสถานบันเทิงจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะยนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตประมาณ 3,000-4,000 คนต่อวัน

“ต้องยอมรับว่าโรคโควิดตอนนี้ไม่สามารถยับยั้งได้ด้วยความกลัว สุดท้ายสถานบันเทิงก็ตกเป็นจำเลยอยู่ดี แต่แทนที่จะปิดเพื่อโยนภาระให้ผู้ประกอบการ ควรคิดหาวิธีรับมือและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราเองก็พยายามมีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุมและเข้มข้นควบคู่กันไป เช่น หลังเทศกาลปีใหม่ที่มีกิจกรรมเคาท์ดาวน์มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ เราตระหนักถึงความสำคัญตรงนี้จึงประกาศปิดบริการ 1 วันเพื่อร่วมบิ๊กคลีนนิ่งและตรวจ ATK ผู้ประกอบการและพนักงาน คัดกรองหาเชื้อโควิดโดยไม่ต้องรอให้หน่อยงานภาครัฐสั่งและไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ” วีรวิชญ์ กล่าวถึงกิจกรรมที่ซอยบางลา ป่าตอง เมื่อวันที่ 6 ม.ค.

ความร่วมมือของภาคเอกชนดังกล่าวถือเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังมีสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามาและภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อกลับมาทะลุหลักร้อยในรอบเดือนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวป่าตองและนักท่องเที่ยว นอกเหนือจากการตั้งจุดคัดกรองและมีการตรวจ ATK อยู่เป็นประจำ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง ยอมรับว่า บ่อยครั้งนักท่องเที่ยวไม่ค่อยใส่หน้ากากอนามัย และเคยนำเสนอเรื่องนี้ไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ซึ่งในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถบังคับใช้กฎหมายควบคู่กันไปด้วยได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะลำพังแต่ผู้ประกอบการคงบังคับได้ยาก

“มันเป็นธรรมดาที่เมื่อมีคนรวมกลุ่มกันเยอะๆ อย่างกิจกรรมเคาท์ดาวน์จะพบผู้ติดเชื้อในหลักร้อย แต่แทนที่จะคิดถึงแต่ตัวเลขควรไปหาวิธีการป้องกัน รับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อ และหาสถานที่ให้เพียงพอกับการรักษา ใครติดก็ไปรักษา หายก็กลับมาทำงาน แค่นั้นธุรกิจต่างๆก็เดินควบคู่กันไปได้ ไม่ต้องโยนบาปมาให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับความบันเทิงทั้งหมดโดยไม่ช่วยเหลือเยียวยาอะไรเลย แต่ณ วันนี้ภูเก็ตมีสถานที่รองรับการรักษานักท่องเที่ยวไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมมากกว่า ต้องอ่านเกมให้ขาดว่าหลังปีใหม่ต้องมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่กลับเพิ่มมาจัดการเพิ่มเติมในช่วงนี้” วีรวิชญ์ กล่าวพร้อมคาดว่าหลังจากนี้ยอดผู้ติดเชื้ออาจจะแตะถึง 400-500 คน

ทั้งนี้ ภูเก็ตกำลังประสบปัญหาสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวที่ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ซึ่งล่าสุดได้มีการเชิญชวนโรงแรมร่วมโครงการ Hotel Isolation หรือแนวทางการเปลี่ยนโรงแรมสำหรับกักกันตัวเองหลังติดเชื้อ เพื่อรองรับเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลและ Hospitel ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ตรวจพบเชื้อและอยู่ในกลุ่มสีเขียวเริ่มถูกใช้แนวทาง Home Isolation เพื่อกันการครองเตียงไว้สำหรับสีเหลืองและแดง เนื่องจากจะไม่เพียงพอการรองรับทั้งหมด

ภาพ – เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต